Highlight
- ชิลีเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่า “ยาวที่สุดในโลก” ตั้งอยู่ทอดยาวเรียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก 6,400 กิโลเมตร และยังติดกับเทือกเขาแอนดีสอีกด้วย
- ชิลีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งทะเลทราย ทะเล หน้าผา ภูเขาไฟ และธารน้ำแข็ง
ลักษณะโครงการ
- เข้าเรียนที่โรงเรียนระดับชั้นมัธยมปลาย
- พักอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ชาวชิลี
ระยะเวลาเข้าร่วมโครงการ
- กลุ่มที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ – เดือนมกราคมในปีถัดไป
- กลุ่มที่ 2 เดือนสิงหาคม – เดือนมิถุนายนในปีถัดไป
ลักษณะความเป็นอยู่
- พักอาศัยกับครอบครัวอุปถัมภ์ชาวชิลี และไปเรียนที่โรงเรียนโดยเรียนเป็นภาษาสเปน
- ครอบครัวชาวชิลียังดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม คือ พ่อคือหัวหน้าครอบครัว และเป็นฝ่ายทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเป็นลัก ส่วนแม่จะเป็นคนหารายได้เสริมให้กับครอบครัว และเนื่องด้วยพ่อต้องใช้เวลากับการทำงานเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ลูกๆมักมีความสนิทสนมและใกล็ชิดกับแม่ค่อนข้างมากกว่า
- เนื่องด้วยการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมทำให้เด็กๆอาจไม่รับอิสระมากนัก เช่น หากมีการทำกิจกรรมหลัง เลิกเรียน หรือจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ควรมีการขออนุญาตและได้รับอนุญาตก่อนทุกครั้ง
- โดยส่วนใหญ่เด็กผู้ชายมักได้รับอิสระมากกว่าเด็กผู้หญิง
- ชาวชิลีค่อนข้างให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่มักใช้เวลาร่วมกันในการพูดคุย หรือแชร์เรื่องราวต่างๆระหว่างกันอยู่เสมอ
- แม้ว่าบางครอบครัวจะมีการจ้างแม่บ้านเพื่อช่วยในการทำงานบ้าน แต่การช่วยเหลือเรื่องงานบ้านเล็กๆน้อยๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อช่วยเหลือกันภายในครอบครัว
ระบบการศึกษา
- มีทั้งโรงเรียนรัฐและเอกชน โรงเรียนจะมี 2 หรือ 3 ภาคการศึกษาซึ่งขึ้นอยู่กับโรงเรียนที่นักเรียนเข้าศึกษา
- ระบบเกรดคะแนนนักเรียน จะแบ่งเป็น 1 – 7 (1 คือต่ำสุด ส่วน7 คือดีที่สุด)
- โดยพื้นฐานมีการเรียน 10 – 13 วิชาต่อสัปดาห์ และเรียนกันเป็นกลุ่ม
- นักเรียนต้องสวมใส่ยูนิฟอร์มของทางโรงเรียน
- บางโรงเรียนมีการจัดกิจกรรมเพื่อท่องเที่ยวในภูมิภาคต่างๆ หรือประเทศใกล้เคียง หากผู้เข้าร่วมโครงการต้องการเข้าร่วม ต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการร่วมกิจกรรมด้วย (*ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับสถานที่ที่โรงเรียนจัดกิจกรรม)
ภาษา
- ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารและการเรียนคือภาษาสเปน
ศาสนา
- คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกร้อยละ 70
- คริสต์นิกายอีวานเจลิการ้อยละ 15.1
- ศาสนาอื่นๆร้อยละ 4.4
วัฒนธรรมการรับประทานอาหาร
- อาหารเช้า ประมาณ 7 โมงเช้า จะเป็นอาหารเบาๆ เช่น ขนมปังกับแยม นม ซีเรียล ชา กาแฟ
- อาหารเที่ยง โดยปกติจะรับประทานประมาณ บ่ายโมง ถึงบ่ายสองโมง จะเป็นมื้อหลักและมื้อใหญ่ เช่น ข้าว มันฝรั่ง เนื้อสัตว์ ผัก
- ชามื้อบ่าย ช่วงประมาณ 5 โมงเย็น เช่น ขนมปังกับแยม แซนวิช หรือพวกขนมอบ
- มื้อเย็น ช่วง 1 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่ม โดยปกติจะมีจานหลักโดยมื้ออาหารสามารถสลับเปลี่ยนจากมื้อที่รับประทานไปตอนมื้อเที่ยงได้
- อาหารชิลีส่วนใหญ่มีรสเค็ม ควรชิมรสชาติก่อนปรุง และขวดเกลือมีช่องเทหลายช่อง ในขณะที่
ขวดพริกไทยมีช่องเทเพียงช่องเดียว (สลับกับวิธีปฏิบัติในหลายประเทศ) - ราคาอาหารจะรวมภาษีแล้ว แต่ในร้านอาหารส่วนใหญ่ จะไม่รวมค่าบริการในใบเสร็จรับเงิน ซึ่งโดยทั่วไปลูกค้าจะให้เพิ่มร้อยละ 10 ของราคาอาหารหรือเครื่องดื่ม
ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ
คำแนะนำสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
- ชิลีใช้สกุลเงินเปโซชิลี CLP สัญลักษณ์คือ $
- การชําระเงินในการซื้อของ/ค่าโรงแรมสามารถใช้เงินสด บัตรเครดิต หรือเช็ค ร้านค้าบางแห่งอาจรับ
การชําระเงินเป็นเงินสดสกุลดอลลาร์สหรัฐ - การแลกเงิน สามารถแลกเงินได้ที่ศูนย์การค้า และตามจุดต่างๆ ของเมือง
- ศูนย์การค้าโดยทั่วไป เปิดเวลา 10.00 น. และปิดเวลา 22.00 น. ห้างสรรพสินค้าภายในศูนยการค้า
โดยทั่วไป เปิดเวลา 11.00 น. และปิดเวลา 21.00 น. - ธนาคารเปิดให้บริการระหว่างเวลา 09.00 – 14.00 น.ทั้งเวลาทํางานปกติของภาคเอกชนคือ เวลา 09.00 – 17.00 น. โดยมักจะหยุดพักรับประทานอาหารกลางวันในช่วงเวลา 14.00 – 13.00 น.
คำถามที่พบบ่อย Q&A
Q1 สภาพอากาศเป็นอย่างไร?
- ภูมิอากาศไม่หนาวจัด ความชื้นโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 50
- ฤดูร้อน ปลายธันวาคม – มีนาคม อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 13C – 29C
- ฤดูใบไม้ร่วง ปลายมีนาคม – มิถุนายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 8C – 23C
- ฤดูหนาว ปลายมิถุนายน – กันยายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 4C – 16C
- ฤดูใบไม้ผลิปลายกันยายน – ธันวาคม อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 8C – 22C
Q2 เวลาต่างกับที่ไทยอย่างไร?
- ช้ากว่าประเทศไทย 10 ชั่วโมง
Q3 ระบบการใช้ไฟฟ้าเป็นอย่างไร?
- 220V
- Q4 การเข้าร่วมโครงการมีความปลอดภัยหรือไม่ ?
- AFS มีระบบการดูแลผู้เข้าร่วมโครงการทุกท่านโดยเจ้าหน้าที่, ครอบครัวอุปถัมภ์ที่จะคอยดูแล และให้คำแนะนำท่านในการดำเนินชีวิตให้ปลอดภัยอย่างสูงสุด
Q5 ถ้าหากใช้ภาษาสเปนแล้วจะได้ภาษาอังกฤษด้วยหรือไม่?
- ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารช่วง 1 – 3 เดือนแรก จะทำให้มีความชำนาญในทักษะภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น
Q6 ใช้ภาษาสเปนแล้วจะเรียนเข้าใจหรือไม่?
- AFS Thailand จะมีการอบรมภาษาสเปนและวัฒนธรรมเบื้องต้นให้กับผู้ร่วมโครงการในช่วงอยู่ประเทศไทย นอกจากนี้ท่านสามารถเรียนเพิ่มเติมได้ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่ช่วงแรกผู้เข้าร่วมโครงการจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เพื่อช่วยในการเรียนด้วย ภายหลังจากนั้น 3 เดือนก็จะมีทักษะภาษาสเปนเพิ่มขึ้นและเรียนต่อไปได้ (**ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละท่าน)
