AFS Memories : พี่พีซี-อารดา ทรายมูล BRA#49

” บราซิล : ประเทศที่ไม่ใช่ตัวเลือกแรก แต่เปลี่ยนมุมมองชีวิตฉันไปตลอดกาล “

AFS Memories วันนี้เราอยู่กับ  ‘พี่พีซี-อารดา ทรายมูล‘  ศิษย์เก่า AFS ประเทศบราซิล รุ่น 49 (ปี 2010–2011) อดีตวิศวกรสาว ที่เลือกก้าวเข้าสู่โลกของการสื่อสารและการตลาด ทั้งด้านการผลิตและการวางแผนกลยุทธ์คอนเทนต์ การตลาดเชิง Branding และการจัดหาและบริหาร Influencer โดยเฉพาะในกลุ่ม LGBTQ+ ครีเอเตอร์, วีเจไลฟ์สด และ Sapphic Community จนขณะนี้ได้ร่วมงานกับแอปพลิเคชันใหญ่ในประเทศจีน

         ตอนนั้นฉันอยู่ชั้น ม.6 สายวิทย์–คณิต และกำลังเข้าสู่ช่วงชี้เป็นชี้ตาย ของการเตรียมความพร้อมเข้าสู่มหาวิทยาลัย

         ถ้าย้อนกลับไป ความยากที่สุดของการสอบ AFS สำหรับฉันอาจไม่ใช่ข้อสอบ แต่คือการเลือกประเทศ 3 อันดับแรก แน่นอนว่า “บราซิล” ไม่เคยอยู่ในใจสักนิด ใครจะคิดว่าเด็กอายุ 16-17 จะได้เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกในประเทศที่อยู่ไกลครึ่งโลก ใช้เวลาเดินทางกว่า 25 ชั่วโมง และต้องใช้ชีวิตที่นั่นเกือบหนึ่งปีเต็ม

         จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในวันที่แม่โทรมาบอกว่า “ลองใส่บราซิลไว้สักลำดับสิ” ฉันจึงเปลี่ยนตัวเลือกหนึ่งในใบสมัคร และนั่นทำให้ฉันได้กลายเป็น “พีซี – AFS Brazil รุ่น 49” โดยปริยาย

เรื่องความปลอดภัยที่ทุกคนชอบถาม

         บราซิลปลอดภัยไหม? เป็นคำถามที่ได้ยินบ่อยสุด สำหรับฉันเรื่องนี้ไม่ได้มีความกังวลตั้งแต่แรก เพราะมองว่าทุกประเทศบนโลกนี้ต่างก็มีมุมที่ปลอดภัยและไม่ปลอดภัยเหมือนกัน อยู่ที่ว่าเรามองผ่านเลนส์แบบไหน ข่าวที่ออกมาถ่ายทอดอย่างไร และสิ่งสำคัญคือเราต้องมีสติ ไม่ประมาท และรู้จักระวังตัวเอง เพราะเมื่ออยู่ต่างถิ่น เราต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองมากกว่าเดิม 

โครงการ AFS เองก็มีระบบการดูแลที่รัดกุม ตั้งแต่การเลือกโฮสแฟมิลี่ที่เหมาะสม การมีกฎระเบียบของนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ซึ่งถ้าเป็นเรื่องความปลอดภัยมั่นใจเลยว่าสบายใจได้ การมาอยู่บราซิล เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่เรามีเจ้าหน้าที่โครงการในพื้นที่ดูแลอย่างอุ่นใจ

เรียนครึ่งวัน ใช้ชีวิตครึ่งวัน

        สิ่งที่ฉันสัมผัสถึงความแตกต่างของไทยกับบราซิลมากที่สุด คือ เรื่องระบบการศึกษา ที่นั่นเราเรียนแค่ครึ่งวัน อีกครึ่งวันเป็นเวลาสำหรับกิจกรรมอื่นๆ ฉันได้ลองทำอาหาร ทำขนม ไปบ้านเพื่อน ช่วยงานโฮสที่สถานดูแลเด็ก หรือเข้าร่วมกิจกรรมในโบสถ์กับเพื่อนๆ ที่นี่มีเวลาให้ฉันได้สัมผัสถึงความอบอุ่น การใช้เวลาร่วมกับผู้คนหลายรูปแบบ และที่สำคัญ มันให้เวลาฉันได้หยุดคิด และถามตัวเองว่า “ฉันอยากเป็นใคร  ชอบอะไร และอยากใช้ชีวิตแบบไหน”

การเดินทางที่ได้มากกว่าการเปิดโลก

        ประเทศบราซิล เป็นประเทศที่ใหญ่จริงๆ การไปแต่ละเมือง แต่ละรัฐไม่ต่างจากการเดินทางข้ามประเทศ ฉันได้เดินทางด้วยรถบัส รถยนต์ และเครื่องบินบ่อยครั้งในปีนั้น ตั้งแต่ไปกับโฮส ร่วมกิจกรรม AFS ไปทัวร์กับเพื่อนๆ ทุกการเดินทางสอนให้ฉันวางแผนจัดการเวลา กล้าตัดสินใจ และรับผิดชอบชีวิตตัวเองมากกว่าเดิม

มีเหตุการณ์มากมายที่บราซิล หนึ่งในนั้นคือการตกปลาครั้งแรกในชีวิต แล้วมีคนตกได้ “ปลาปิรันย่า” ตอนนั้นฉันทั้งตกใจและตื่นเต้น เพราะเราคุ้นเคยกับในหนัง หรือสารคดีว่ามันดุร้าย แต่ที่นั่นกลับนำมาทำอาหารอย่างปกติ

หรือแม้แต่การนั่งดูฟุตบอลกับครอบครัวโฮสที่บราซิล ฟุตบอลคือกีฬาอันดับหนึ่งจริงๆ มีการแข่งขันเกือบทั้งปี และเมื่อมีการแข่งขัน แทบทุกคนในบ้านจะหยุดทุกอย่างเพื่อมานั่งเชียร์บอล แม้เราจะไม่ใช่แฟนบอล แต่บรรยากาศนั้นทำให้เข้าใจว่าทำไมบราซิลถึงถูกยกให้เป็นประเทศแห่งฟุตบอล

วัฒนธรรมที่น่าหลงรัก และชวนให้คิดถึง

      สิ่งที่ทำให้ฉันคิดถึงบราซิลคือวัฒนธรรมเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การทักทายกันอย่างเป็นมิตร กลิ่นกาแฟสดที่ต้องพบเจอทุกเช้า นมวัวอุ่นๆ แบบสดใหม่ ข้าวที่ต้องผัดน้ำมันก่อนหุง สลัดมะเขือเทศกับหัวหอมที่อยู่แทบทุกมื้อ ไปจนถึงเครื่องดื่มกัวรานาที่อร่อยจนอยากพกกลับไทย

และแน่นอนว่าถ้าเอ่ยถึงอาหารบราซิลจริงๆ คงหนีไม่พ้น “Feijoada (เฟยัวดา)” สตูว์ถั่วดำใส่เนื้อหมูหรือเนื้อวัวที่กินคู่กับข้าวสวย แรกๆ อาจไม่คุ้นกับรสชาติ แต่เมื่อกินแล้ว นี่แหละ คืออาหารเมนูหนึ่ง ที่จะได้กินตลอดปี นักเรียนแลกเปลี่ยนบราซิลทุกคนคุ้นเคยกันดี

และที่พิเศษที่สุดคือ “Tereré” เครื่องดื่มสมุนไพรท้องถิ่น ที่มีเฉพาะรัฐ Mato Grosso do Sul (MS) ที่ฉันไปอยู่เท่านั้น เป็นเครื่องดื่มที่ทุกบ้านต้องมี และเรามักนั่งล้อมวงดื่มร่วมกันทุกวัน มันเป็นวัฒนธรรมเล็กๆ ของการได้แชร์ พูดคุย และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน คนในครอบครัวที่แข็งแรงได้ชัดเจนมาก

Soft Power ไทย กำลังเข้าตาคนบราซิล

        อีกสิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจคือ คนบราซิลชอบคนไทยมาก แม้ในช่วงปีที่ฉันไป มีหลายคนยังไม่เปิดกว้างเรื่องเพศ แต่เมืองใหญ่ๆ มีความเปิดกว้างมาก และทุกวันนี้ยิ่งเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ คนบราซิลรักซีรีส์วาย BL/ GL ของไทยจริงจัง ถึงขั้นจัดแฟนมีต รู้จักนักแสดงไทยอย่างดี สำหรับฉันที่สนใจซีรีย์ BL/ GL อยู่แล้ว มันทำให้เห็นว่า Soft Power ไทยกำลังเติบโต และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของคนไทยสู่สายตาชาวต่างชาติ

ชีวิตเปลี่ยนทิศทางเพราะกล้าลองสิ่งใหม่

      เมื่อกลับไทย ประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่บราซิลทำให้ฉันกล้าลองสิ่งใหม่มากขึ้น แม้กลับมาจะได้เรียนวิศวกรรมศาสตร์ สาขาบริหารงานก่อสร้าง (EBM) เป็นหลัก แต่ก็เลือกเรียนควบคู่กับนิเทศศาสตร์ มสธ. เพราะเริ่มสนใจการทำงานเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตละคร โฆษณา ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ หรือแม้แต่งานด้านการสื่อสารโดยตรง

สุดท้ายฉันไม่ได้เลือกเดินในสายงานวิศวะ แต่ก้าวเข้าสู่โลกของการสื่อสารและการตลาด ทั้งด้านการผลิตและการวางแผนกลยุทธ์คอนเทนต์ การตลาดเชิง Branding และการจัดหาและบริหาร Influencer โดยเฉพาะในกลุ่ม LGBTQ+ ครีเอเตอร์ วีเจไลฟ์สด และ Sapphic Community ซึ่งตอนนี้ฉันก็ได้ร่วมงานกับแอปพลิเคชันใหญ่ในจีนด้วย

หลายคนอาจมองว่าเส้นทางนี้ไม่ตรงสายที่เรียนเลย แต่สำหรับฉัน มันคือเส้นทางที่ใช่ที่สุดกับความสนใจของฉันในปัจจุบันและการตื่นตัวกับเปลี่ยนแปลงของโลกตลอดเวลา แล้วจุดเริ่มต้นทั้งหมดก็เริ่มจากการที่ฉันกล้าเลือกสิ่งที่ไม่เหมือนใครตั้งแต่การไปแลกเปลี่ยนที่บราซิลในวัยมัธยม

ภาพที่ฉันมีจากบราซิลอาจไม่ใช่แลนด์มาร์กสวยๆ แต่เป็นเพียงเซลฟี่กับเพื่อนที่โรงเรียน หรือภาพที่บ้านโฮส แต่เบื้องหลังภาพเหล่านั้นคือชีวิตจริงที่ฉันได้สัมผัส และได้โตขึ้น

ถ้าให้ย้อนกลับไป บทเรียนที่สำคัญที่สุดจากการไปแลกเปลี่ยนครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของฉันคนเดียว แต่คือการได้ตระหนักว่าชีวิตของฉันเปลี่ยนแปลงได้จากพ่อ แม่ และป้า บุคคลสำคัญในชีวิตที่คอยเปิดทางให้เสมอ พ่อแม่คือคนที่ไม่เคยปิดกั้น ยอมรับผลลัพธ์ทุกอย่าง และสนับสนุนให้ฉันก้าวไปข้างหน้า ส่วนป้าคือแรงเสริมที่ทำให้ทุกอย่างราบรื่น ง่ายขึ้น และเต็มไปด้วยกำลังใจ และหากวันนั้นแม่ไม่ได้บอกให้ฉันลองเลือกบราซิลตั้งแต่แรก เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น และฉันก็คงไม่ได้เป็นตัวฉันอย่างในทุกวันนี้

หากคุณเป็นนักเรียนที่กำลังลังเลว่าจะเลือกประเทศไหน หรือผู้ปกครองที่กำลังชั่งใจ เด็ก AFS บราซิล 49 คนนี้ อยากฝากเพียงว่า อย่ามองข้ามประเทศบราซิล เพราะบางทีประเทศที่ไม่ใช่ตัวเลือกแรก อาจกลายเป็นประเทศที่ใช่ที่สุดในชีวิตคุณ เหมือนที่มันเคยเปลี่ยนชีวิตฉันมาแล้ว💙

หากน้อง ๆ สนใจเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเอเอฟเอส ประเทศบราซิล

Apply Now! โครงการแลกเปลี่ยนระยะ 1 ปี รุ่นที่ 65 รอบเดินทาง Q1/2569 ติดตามได้ที่👉 Year Programs

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่

https://lin.ee/1w8lCkcmt

Tel02 574 6197  (โครงการระยะ 1 ปี ต่อ 401-404) 0819274307 , 0817555012

#AFSThailand
#AFSBoardingSchoolPrograms
#AFSProgram